23เม.ย.
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเห็นตาอันไม่เที่ยงนั่นแหละ ว่าไม่เที่ยง ความเห็นของเธอนั้นเป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อเห็นอยู่โดยถูกต้อง ย่อมเบื่อหน่าย เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ กล่าวได้ว่า... read more
22ก.ย.
ท่านฉันนะ ท่านเห็นอยู่อย่างไร รู้อยู่อย่างไร ในตา ในจักษุวิญญาณ ในธรรมที่รู้ได้ด้วยจักษุวิญญาณ จึงพิจารณาเห็นตา จักษุวิญญาณ ธรรมที่รู้ได้ด้วยจักษุวิญญาณว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่อัตตาของเรา.
ท่านเห็นอยู่อย่างไร... read more
29ก.ย.
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรตั้งความหวังกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และสิ่งใดที่ยังมาไม่ถึง สิ่งนั้นก็เป็นอันยังไม่ถึง
บุคคลใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าในที่นั้น ๆ อย่างแจ่มแจ้ง ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้
พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ ใครเล่าจะรู้ความตายแม้ในวันพรุ่งนี้ เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนามากนั้น... read more
26พ.ค.
ชีวกะ ผู้ใด ทำการฆ่าสัตว์เจาะจงถวายตถาคตหรือสาวกของตถาคต ผู้นั้นย่อมประสบกับสิ่งที่ไม่ใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ
ข้อที่บุคคลนั้น กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านจงไปนำสัตว์ชื่อนั้นมา ดังนี้ ชื่อว่าย่อมประสบกับสิ่งที่ไม่ใช่บุญเป็นอันมาก ด้วยเหตุประการที่... read more
18มิ.ย.
ภิกษุทั้งหลาย การเกิดขึ้นแห่งตัณหา เมื่อจะเกิด ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุในที่ใด (ก็ตาม) มีอยู่ ๔ ประการเหล่านี้ ๔ ประการอะไรบ้าง
ภิกษุทั้งหลาย ตัณหาเมื่อจะเกิด ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุ เพราะจีวรเป็นเหตุ ตัณหาเมื่อจะเกิด... read more
23ธ.ค.
คหบดี เปรียบเหมือน เมื่อเรือนมุงไว้อย่างดี ยอดหลังคาก็เป็นอันได้รับการรักษา กลอนหลังคาก็เป็นอันได้รับการรักษา ฝาเรือนก็เป็นอันได้รับการรักษา อกไก่ก็ไม่เปียกชื้น กลอนหลังคาก็ไม่เปียกชื้น ฝาเรือนก็ไม่เปียกชื้น อกไก่ก็ไม่ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ไม่ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ไม่ผุเปื่อย.
คหบดี ฉันใดก็ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อจิตได้รับการรักษา กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่าได้รับการรักษา เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมได้รับการรักษา กายกรรม วจีกรรม... read more
23ส.ค.
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมฆฝนใหญ่ เมื่อตกลงมาให้ข้าวกล้าเจริญงอกงาม ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่มหาชน.
ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น สัปบุรุษเมื่อเกิดในตระกูล ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่มหาชน คือ... read more
12พ.ย.
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนท่อนไม้ อันบุคคลโยนขึ้นไปสู่อากาศ บางคราวตกเอาโคนลง บางคราวตกเอาตอนกลางลง บางคราวตกเอาปลายลง.
ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น สัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ท่องเที่ยวไปมาอยู่ บางคราวแล่นจากโลกนี้สู่โลกอื่น บางคราวแล่นจากโลกอื่นสู่โลกนี้.
ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร... read more
11มิ.ย.
ขึ้นชื่อว่าความลับไม่มีในโลก สำหรับผู้ทำไว้
แน่ะบุรุษ จริงหรือเท็จ ตัวของท่านเองย่อมจะรู้
แน่ะผู้เจริญ ท่านสามารถที่จะทำความดีได้หนอ
แต่ท่านกลับดูหมิ่นตนเองเสีย และยังปกปิดความชั่วซึ่งมีอยู่ในตน.
เทวดาและตถาคตย่อมมองเห็นท่าน
ผู้ซึ่งเป็นคนพาล ประพฤติไม่สม่ำเสมอ.
เพราะฉะนั้นแหละ คนที่มีตนเป็นใหญ่ ควรมีสติเที่ยวไป
คนที่มีโลกเป็นใหญ่ ควรมีปัญญาและเพ่งพินิจ
ส่วนคนที่มีธรรมเป็นใหญ่ ควรประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม.
มุนีผู้มีความบากบั่นอย่างจริงจัง ย่อมจะไม่เสื่อม
อนึ่ง... read more
14มี.ค.
… ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น การพิจารณาของภิกษุว่า
เราเป็นผู้มีอภิชฌาอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ไม่มีอภิชฌาอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตพยาบาทอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีจิตไม่พยาบาทอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีถีนมิทธะกลุ้มรุมอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ปราศจากถีนมิทธะอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตฟุ้งซ่านอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีจิตไม่ฟุ้งซ่านอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีความสงสัยอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ข้ามพ้นความสงสัยอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มักโกรธอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ไม่มักโกรธอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตเศร้าหมองอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีจิตไม่เศร้าหมองอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีกายกระสับกระส่ายอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีกายไม่กระสับกระส่ายอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้เกียจคร้านอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตตั้งมั่นอยู่โดยมาก... read more