21มี.ค.
… ภิกษุ เมื่อใด เธอศึกษาในอธิศีลสิกขา ศึกษาในอธิจิตตสิกขา
และศึกษาในอธิปัญญาสิกขา เมื่อนั้น เธอผู้กำลังศึกษาในอธิศีลสิกขา ศึกษาในอธิจิตตสิกขา และศึกษาในอธิปัญญาสิกขาอยู่ จะละราคะ โทสะ และโมหะเสียได้ เพราะละราคะ... read more
05ธ.ค.
ภูเขาใหญ่ล้วนแต่เป็นศิลา สูงจดท้องฟ้า กลิ้งบดสัตว์มาโดยรอบทั้ง ๔ ทิศแม้ฉันใด
ชราและมรณะก็ฉันนั้น ย่อมครอบงำสัตว์ทั้งปวง คือ พวกกษัตริย์ พวกพราหมณ์ พวกเวสส์ พวกศูทร พวกจัณฑาล... read more
04ธ.ค.
สัตว์โลกนี้ เกิดความเดือดร้อนแล้ว มีผัสสะบังหน้า ย่อมกล่าวซึ่งโรคนั้น โดยความเป็นตัวเป็นตน.
เขาสำคัญสิ่งใด โดยความเป็นประการใด แต่สิ่งนั้นย่อมเป็นโดยประการอื่น จากที่เขาสำคัญนั้น.
สัตว์โลกติดข้องอยู่ในภพ ถูกภพบังหน้าแล้ว มีภพโดยความเป็นอย่างอื่น จึงได้เพลิดเพลินยิ่งนักในภพนั้น.
เขาเพลิดเพลินยิ่งนักในสิ่งใด สิ่งนั้นเป็นภัย... read more
29ต.ค.
สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี และบูชาดี…
วันคืนล่วงไป ๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่.” read more
23ส.ค.
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเมฆฝนใหญ่ เมื่อตกลงมาให้ข้าวกล้าเจริญงอกงาม ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่มหาชน.
ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น สัปบุรุษเมื่อเกิดในตระกูล ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่มหาชน คือ... read more
06ก.ย.
... ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาใด ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบยิ่ง ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมสักการะเคารพนับถือบูชาตถาคต ด้วยการบูชาอันสูงสุด
... เพราะฉะนั้นเธอพึงกำหนดใจว่า... read more
06มิ.ย.
ภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะทั้งหลายเหล่าใด ได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริงไปแล้ว ในกาลอันเป็นอดีต ท่านเหล่านั้นทั้งหมด ได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง ซึ่งอริยสัจ ๔ ประการ.
ภิกษุทั้งหลาย พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะทั้งหลายเหล่าใด จักได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง ในกาลอันเป็นอนาคต ท่านเหล่านั้นทั้งหมด ก็จักได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง... read more
25ก.ย.
… มหาราช ชนเหล่าใด ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ประพฤติทุจริตด้วยวาจา ประพฤติทุจริตด้วยใจ ชนเหล่านั้นชื่อว่าไม่รักตนเอง ถึงแม้พวกเขาจะกล่าวอยู่อย่างนี้ว่าเรารักตนเอง แม้เป็นเช่นนั้น ชนเหล่านั้นก็ชื่อว่าไม่รักตนเอง.
มหาราช ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร เพราะว่า... read more
14มี.ค.
… ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น การพิจารณาของภิกษุว่า
เราเป็นผู้มีอภิชฌาอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ไม่มีอภิชฌาอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตพยาบาทอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีจิตไม่พยาบาทอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีถีนมิทธะกลุ้มรุมอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ปราศจากถีนมิทธะอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตฟุ้งซ่านอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีจิตไม่ฟุ้งซ่านอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีความสงสัยอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ข้ามพ้นความสงสัยอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มักโกรธอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ไม่มักโกรธอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตเศร้าหมองอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีจิตไม่เศร้าหมองอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีกายกระสับกระส่ายอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้มีกายไม่กระสับกระส่ายอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้เกียจคร้านอยู่โดยมาก หรือว่าเราเป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่โดยมาก
เราเป็นผู้มีจิตตั้งมั่นอยู่โดยมาก... read more
16เม.ย.
ภิกษุทั้งหลาย อสุภสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว พึงหวังผลได้ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ ก็จะเป็นอนาคามี... read more